วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ประเทศในทวีปยุโรป

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ข้อมูลทั่วไป
ชื่อทางการคือสมาพันธรัฐสวิส (Swiss Confederation)
เมืองหลวงเบิร์น
ที่ตั้งสมาพันธรัฐสวิสหรือสวิตเซอร์แลนด์ตั้งอยู่กลางทวีปยุโรปล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลทิศเหนือจรดสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ทิศตะวันออกจรดออสเตรียและลิคเตนสไตน์ทิศใต้จรดอิตาลี ทิศตะวันตกจรดฝรั่งเศส
พื้นที่
41,290 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าประเทศไทย 12 เท่า โดยพื้นที่ 2 ใน3 ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์อยู่บนเทือกเขาแอลป์ ซึ่งทอดยาวจากทิศตะวันตก
ประชากร 7,400,000 คน (ปีพ.ศ.2548)

ธงประจำชาติประเทศสวิตเซอร์แลนด์
แผนที่


ดอกไม้ประจำชาติ
อาหารประจำชาติ


ภูมิประเทศ-ภูมิอากาศ
สวิตเซอร์แลนด์ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรปมีพื้นที่ 41,284 ตารางกิโลเมตรเหนือจรดใต้ยาวเพียง 220.1 กิโลเมตร และตะวันออกจรดตะวันตกกว่างเพียง 348.4 กิโลเมตร
อาณาเขตติดชายแดน 5 ประเทศ ได้แก่อิตาลี ฝรั่งเศสเยอรมัน ออสเตรียและ ลิคเคนไสตน์สวิสเป็นกลางและอิสระดังนั้นการรวมตัวของพลเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 700 ปีที่แล้วนั้นทำให้สวิสต้องใช้ภาษาทางราชการ 4 ภาษา ได้แก่ เยอรมันฝรั่งเศส อิตาเลียน และ อังกฤษ และมีภาษาท้องถิ่นอีก 1 ภาษา
พื้นที่ของประเทศตั้งอยู่บนภูเขาและที่ราบสูง มีพื้นที่เพาะปลูกเพียง 1/4ของประเทศและเป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตเศรษฐกิจของพลเมืองในประเทศมีทิวทัศน์ที่สวยงามมากการเดินทางในประเทศส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถไฟและรถสาธารณะ มากกว่าการมีรถส่วนตัวนอกจากการคมนาคมสะดวกมากและตรงเวลาแล้วที่จอดรถมีน้อยและค่าเช่าที่จอดรถแพง
อากาศในสวิสมีความแตกต่างกันในหน้าร้อนและหน้าหนาวระหว่างบนพื้นที่ราบ และบนภูเขาสูงบนพื้นที่ราบอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 40-80 F และบนภูเขาอยู่ระหว่าง 25-60 F กิจกรรมยามว่างของชาวสวิสส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมบนเขา เช่น หน้าร้อน เดินเขาขี่จักรยานหน้าหนาวเล่นสกี เป็นต้น

ระบบการปกครอง
ปกครองแบบประชาธิปไตย ในรูปของสมาพันธรัฐ (confederation) ประกอบด้วยมณฑล (Canton) 23 แห่ง ในจำนวนนี้ 3 มณฑลถูกแบ่งออกเป็นกึ่งมณฑล (haft-canton) 6 แห่ง จึงเสมือนประกอบด้วยมณฑลทั้งสิ้น 26 แห่งซึ่งมีอำนาจบริหารภายในของแต่ละมณฑลส่วนอำนาจบริหารส่วนกลางจะอยู่ที่คณะมนตรีแห่งสมาพันธ์ (Federal Council) ซึ่งเปรียบเท่ากับคณะรัฐมนตรีประกอบด้วยสมาชิกที่เรียกว่ามนตรีแห่งสมาพันธ์(Federal Councillor) 7 คน มีวาระในตำแหน่งคราวละ 4 ปีและใน 7 คน จะผลัดกันเป็นประธานาธิบดีคนละ 1 ปี

ระบบเศรษฐกิจ
การที่ชาวสวิสไม่มีทรัพยากรมากทำให้ชาวสวิสยึดการเป็นนักประดิษฐ์และสิ่งใดที่ทำเองไม่ได้จะเลือกที่จะตามคนอื่นนำเข้าวัตถุดิบผลิตเป็นสินค้าออกที่สำคัญเป็นผลิตผลที่ได้จากการประดิษฐ์คิดค้น ความเที่ยงตรงและคุณภาพที่สม่ำเสมอจับใจคนอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่อิเลคโทรนิค เคมี ยา นาฬิกา รวมถึงกิจการที่เป็นลักษณะของการบริการการวางแผน การบริการและเทคโนโลยีรวมถึงงานกิจการด้านการโรงแรมและโรงนาที่พัก การท่องเที่ยวเนื่องจากเป็นประเทศศูนย์กลางของยุโรปที่นักเดินทางต้องตัดผ่านจากเหนือไปใต้และตะวันออกไปตะวันตก
การศึกษาต่อในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ระบบการศึกษา
การศึกษาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ต่างจากระบบการศึกษาในประเทศไทยเล็กน้อย คือระบบของสวิสนั้นการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นประถมต้น ถึงจบมัธยมปลาย ใช้เวลา 13 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี 3 –5 ปี ขึ้นอยู่กับวิชาที่เรียนและสำหรับสาขาแพทยศาสตร์ จะใช้เวลา 6-7 ปี


วุฒิบัตรทางการศึกษาของสวิสเรียกด้วยศัพท์ที่ใช้ในประเทศของเขาเอามาแปลเป็นไทยได้ดังนี้
ระดับมัธยมปลาย (School leaving Certificate) เรียกคนที่จะผ่านเข้าศึกษาระดับ ม.ปลายต้องผ่านการคัดเลือกมาแล้วตั้งแต่ม.ต้นว่าเก่งมาก มีจำนวนเพียง 25% ของคนที่จบ ม.ต้นมา ที่เหลือ10% เข้าโรงเรียนเทคนิคและ 60% เรียน ปวช. ปวส เพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัย

ปริญญาตรี (Bachelor Degree)

ปริญญาโท (Diploma หรือ Post Graduate)

และปริญญาเอก (Doctoral Degree)

ชาวสวิสไม่มีคำว่า Master Degree ที่แปลว่า ปริญญาโทซึ่งเป็นคำภาษาอังกฤษ แบบที่เราคุ้นเคย และในบางประเทศความหมายของคำว่า Diploma เป็นการศึกษาอีกรูปแบบหนึ่งมีหลายคนงงกับคำว่า Diploma คำว่า Diploma ในสวิตเซอร์แลนด์เองก็มีการใช้หลายแบบเช่นใช้กับบุคคลที่ผ่านการสอบและฝึกหัดเทคนิคเฉพาะทางในหลักสูตรพิเศษ เช่นวิศวกร เภสัชกร หรือใช้กับการศึกษาในสายอาชีพที่มีภาคปฏิบัติเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ขณะนี้สวิตเซอร์แลนด์ก็เช่นเดียวกับยุโรปอื่นกำลังปรับระบบการศึกษาในประเทศของตนให้เป็นสากลมากขึ้น

แล้วควรจะเรียนต่ออย่างไรดี?
โดยทั่วไปควรเรียนปริญญาตรี หรือ ปริญญาเอก เลยเนื่องจากไม่มีการเทียบวุฒิการศึกษาอย่างเป็นทางการการเรียนต่อระดับปริญญาโทค่อนข้างยุ่งยากกว่าแต่มีหลักสูตรปริญญาโทบางหลักสูตร ที่เปิดร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างชาติมักสอนเป็นภาษาอังกฤษ เช่นหลักสูตรวิชาการบริหาร การจัดการและการท่องเที่ยว การโรงแรม ที่มีชื่อเสียงนั่นเอง




ค่าใช้จ่าย
เราต้องเข้าใจว่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศหนึ่งที่มาตรฐานการครองชีพของพลเมืองดีมากดังนั้นอัตราแลกเปลี่ยนเงินเมื่อเทียบกับของไทยจึงดูเหมือนกับว่าค่อนข้างสูง การหางานพิเศษทำมีโอกาสน้อยกว่าที่อื่นยกเว้นการทำงานในลักษณะการฝึกงานที่ใช้กับสาขาวิชาการโรงแรมที่บังคับให้มีการฝึกงานและได้รับเงินเดือน

อย่างไรก็ดีการเรียนในสวิตเซอร์แลนด์ก็ไม่ได้แพงกว่าที่อื่นๆ เมื่อเทียบกันแล้วโรงเรียนที่มีมาตรฐานเดียวกันก็มีค่าเล่าเรียนที่ใกล้กันทั่วโลกต่างกันก็ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่านั้น

การเรียนในสถาบันของรัฐไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน เสียเพียงค่าสมัคร ค่ารักษาสถานภาพของนักเรียนแต่ละมหาวิทยาลัยก็แตกต่างกัน (ระหว่าง 800-1500 ฟรังค์สวิสต่อปี)ค่าสอบค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวดังนั้นกฏเกณฑ์การรับเข้าจึงยากกว่าการเข้าเรียนในวิทยาลัยเอกชนซึ่งต้องเสียค่าเล่าเรียนเป็นเทอมเช่นเดียวกับในอังกฤษอเมริกาหรือออสเตรเลียและค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุที่นักเรียนทุกคนต้องทำอัตราค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับบริษัท อายุของผู้ทำประกันและระยะเวลา (ระหว่าง 90 - 220 .-ฟรังค์ต่อเดือน)

ค่าใช้จ่ายเช่นค่าเล่าเรียน อาหาร ที่พัก และค่าใช้จ่ายส่วนตัว ที่ต้องมีให้พอเพียง

สำหรับการเรียนในสถาบันของรัฐโดยเฉลี่ยประมาณปีละ 15,000.- 20,000.-ฟรังค์สวิส *

การเรียนในสถาบันเอกชนแตกต่างกันไประหว่างปีละ 30,000 – 65,000.- ฟรังค์สวิส*ขึ้นอยู่กับสถาบันและหลักสูตรที่เรียน ซึ่งรวม ค่าเล่าเรียน อาหาร ที่พักและค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่เป็นตัวแปรหลักของค่าใช้จ่ายรวม
(* อัตราแลกเปลี่ยนตามสถานการณ์โลก ในปี 2003 อยู่ระหว่าง 31 – 36 บาท ต่อ 1 ฟรังค์สวิส)
การธนาคารและประกันภัย
ชาวสวิสนับเป็นพลเมืองที่มีรายได้ประชาชาติสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอาชีพพิเศษได้แก่ การเป็นทหารรับจ้าง ชายชาวสวิสอายุ 20 ขึ้นไปทุกคนต้องได้รับการฝึกเป็นทหารและต้องซ้อมฝึกทุก 2 ปีจนกว่าจะอายุ 50
ที่พัก
สถานศึกษาของรัฐไม่มีการบริการในเรื่องการจัดหาสถานที่พักให้แต่ในทุกมหาวิทยาลัยมีสำนักเลขานุการสำหรับดูแลนักเรียนต่างชาติซึ่งมีการจัดหาข้อมูลเรื่องที่พักไว้บริการ แต่ไม่รับติดต่อให้นักเรียนต้องติดต่อ
สถาบันเอกชนมีบริการครบรูปแบบตั้งแต่จัดหาสถานที่พักทุกชนิด ตั้งแต่ Family ,Studio, Apartment มีบริการอาหาร หรือหาเองบางแห่งก็สามารถพักได้ในสถาบันบริการรถรับส่งที่สนามบิน หรือสถานีรถไฟค่าบริการก็แตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้ใช้บริการ

หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องของข้อมูลสถาบันต่างๆและการศึกษาต่อในสวิตเซอร์แลนด์ในประเทศไทยได้แก่ฝ่ายวัฒนธรรมและการศึกษาสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ และองค์กรที่เป็นตัวแทนของสถาบันในประเทศไทย
ในสวิตเซอร์แลนด์นักเรียนไทยควรรายงานตัวกับสถานทูตไทย ณ กรุง Bern

เงินตราและบัตรเครดิต
เงินตราของสวิตเซอร์แลนด์เรียกว่า "ฟรังก์สวิส" โดย 1 ฟรังก์สวิส เท่ากับประมาณ 35 บาท (อัตราเดือนตุลาคม 2548) สามารถแลกเปลี่ยนเงินตราได้ตามธนาคารทุกแห่ง ท่าอากาศยานสถานีรถไฟตามเมืองใหญ่ และโรงแรมทั่วไป ทั้งนี้อัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารจะได้อัตราดีที่สุด

บัตรเครดิตที่สามารถใช้จ่ายได้จะต้องเป็นประเภทบัตรเครดิตที่ได้รับการยอมรับ อาทิ วีซ่ามาสเตอร์การ์ด และอเมริกันเอ็กซ์เพรสการใช้บริการจากธุรกิจในสวิตเซอร์แลนด์ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯมักจะรวมค่าบริการไว้เรียบร้อยแล้วแต่ผู้ใช้บริการก็อาจให้ทิปเล็กน้อยเพื่อเป็นการแสดงน้ำใจเท่านั้น

การคมนาคม
สวิตเซอร์แลนด์ใช้ระบบขนส่งมวลชน รถเมล์ รถราง และเรือโดยสาร ถือว่าสะดวกรวดเร็วตรงเวลา และราคาไม่แพง ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว (การจราจรขับชิดขวา) ต้องเสียค่าธรรมเนียมในสถานที่จอดรถตามเมืองใหญ่ระบบไปรษณีย์สวิสที่เชื่อถือได้ และมีบริการตู้โทรศัพท์สาธารณะทั่วไปสามารถตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์และส่ง E-mail ได้จากตู้โทรศัพท์สาธารณะ

การแต่งกาย
สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีอากาศหนาวจัดบนพื้นที่ภูเขาและที่สูงในฤดูหนาวการแต่งกายควรให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอจึงควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วยแม้จะไม่ใช่ฤดูหนาวและตรวจดูสภาพความพร้อมของร่างกาย หากจำเป็นต้องขึ้นภูเขาที่สูงมาก (3,000 เมตรหรือสูงกว่า) เนื่องจากอากาศอาจมีปริมาณออกซิเจนต่ำอาจเกิดปัญหาสุขภาพได้

ชุมชนไทย
มีชาวไทยพำนักอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ประมาณ 12,000 คน เป็นชายร้อยละ 20 หญิงร้อยละ 80 สมาคม/ชมรมไทยอยู่ประมาณ 15 แห่ง วัดไทยอยู่ 3 แห่งคือวัดศรีนครินทราวราราม ตั้งอยู่ที่เมือง Aarauโทรศัพท์ (+4162) 858-6030 วัดธรรมปาละตั้งอยู่ที่เมืองKandersteg


สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเบิร์น
Royal Thai Royal Embassy , Bern
โทรศัพท์(+4131) 970-3030, 970-3411
โทรสาร (+4131) 970-3035
หน่วยงานราชการไทย
สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ไทยประจำนครซูริค
Royal Thai Honorary. Consulate- General, Zurich
โทรศัพท์ (+4143) 344-7000
โทรสาร (+4143) 344-7001
สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ไทยประจำนครเจนีวา
Royal Thai Honorary. Consulate- General, Geneva
โทรศัพท์ (+4122) 311-07263
โทรสาร (+4122) 311-0049

สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ไทยประจำเมืองบาเซล
Royal Thai Honorary Consulate
โทรศัพท์ (+4161) 206-4565
โทรสาร (+4161) 206-4546


เอกสารการขอวีซ่าประเภทนักเรียน

การขอวีซ่าเข้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ประเภทนักเรียนนั้นผู้ขอต้องยื่นหลักฐานและข้อมูลดังต่อไปนี้ด้วยตนเองแบบคำร้องขอวีซ่าที่กรอกและลงลายมือชื่อโดยสมบูรณ์ โดยผู้ยื่นคำร้องจำนวน 3 ชุด

หนังสือเดินทาง(โปรดแนบสำเนา 1 แผ่น ด้วย) หลังการเยือนสวิตเซอร์แลนด์แล้วยังต้องมีอายุใช้ได้ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน
รูปถ่ายปัจจุบันขนาดติดหนังสือเดินทาง 3 ใบ

ผู้ยื่นคำร้องต้องให้ข้อมูลต่อไปนี้ (โปรดแนบสำเนา 2 ชุด)
จดหมายจากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่ตอบรับผู้ยื่นคำร้องเข้าศึกษา
หลักฐานแสดงการชำระค่าเล่าเรียน
หลักฐานการเงินซึ่งแสดงว่าสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายระหว่างการพำนักอยู่ในสวิตแซอร์แลนด์หรืออย่างน้อยสำหรับการพำนักเป็นเวลา 1 ปีในกรณีที่การศึกษาใช้ระยะเวลานานกว่า 1 ปี (สมุดคู่ฝากเงินธนาคารของผู้ยื่นคำร้อง, สมุดคู่ฝากเงินธนาคารและจดหมายรับรองจากบิดา-มารดา, สมุดคู่ฝากเงินธนาคารและจดหมายรับรองจากผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ฯลฯ)
หลักฐานการศึกษา(วุฒิการศึกษาที่สำเร็จแล้ว และประวัติการศึกษา (CV)
จดหมายยืนยันว่าจะเดินทางออกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์หลังการพำนักอยู่ตามที่ขออนุญาตไว้
วัตถุประสงค์ที่ต้องการศึกษาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ผู้ยื่นคำร้องควรแสดงให้เห็นว่าการศึกษาที่ประสงค์จะศึกษา (ภาษา, โรงแรม, มหาวิทยาลัย,ฯลฯ) นั้น จำเป็นต่อการศึกษาต่อหรือการทำงานในประเทศไทย)
แผนการในอนาคตของผู้ยื่นคำร้องหลังสำเร็จการศึกษาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ค่าธรรมเนียมวีซ่า 40 ฟรังก์สวิส เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 20 ฟรังก์สวิส (ชำระเป็นเงินไทย)
สถานเอกอัครราชทูตฯ จะประเมินความรู้ด้านภาษาของผู้ยื่นคำร้องด้วย

แบบคำร้องขอวีซ่าประเภทนักเรียนจะถูกส่งไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อพิจารณาอนุมัติตำรวจควบคุมคนต่างด้าวของจังหวัดที่เกี่ยวข้องอาจจะขอเอกสารหรือข้อมูลเพิ่มเติมโปรดทราบว่ากระบวนการพิจารณาคำร้องขอเดินทางเข้าสวิตเซอร์แลนด์อาจใช้เวลาถึง 3 เดือน
ที่มา
http://campus.sanook.com/education/oversea/read_03777.php



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น